Genius Sword Immortal - บทที่ 456 เย่เฟิงยังไม่ตาย
บทที่ 456 เย่เฟิงยังไม่ตาย
หลังจากที่ได้ผลมณีพืชทรายดาราแล้ว เย่เฟิงก็รู้สึกผ่อนคลายลงบ้าง
แต่ทว่าเขารู้ว่าตอนนี้เขายังคงตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤต เรื่องราวมันกลายเป็นเละเทะไปหมด ชีวิตนี้ไม่สามารถกลับไปประเทศจีนได้อีก เนื่องจากตอนนี้เขาดันกลายเป็นคนทรยศขายชาติไปเสียแล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม ตราบเท่าที่จับตัวไซ่จื่อเชียนและซูหงได้ ปัญหาเรื่องนี้มันก็จะถูกแก้ไขอย่างง่ายดาย ไม่ใช่เพียงแค่นั้นแต่มันยังสามารถรู้ได้ว่าใครที่เป็นตัวการที่ใส่ร้ายเขา!
“ถึงกับจัดฉากใส่ร้ายฉัน ไม่ว่าจะมีแผนชั่วอะไรก็ตามแต่ถึงขั้นใช้วิธีนี้ มันช่างสิ้นคิด”
เย่เฟิงคิดในใจ รู้สึกขยะแขยง
จากนั้นความสนใจของเขาก็จดจ่อไปยังผลมณีพืชทรายดารา หนึ่งในผลึกเก้าผลสามารถเพิ่มวรยุทธได้ถึงแปดปี ทั้งชีวิตเย่เฟิงนอกจากน้ำแข็งพันปีเร้นรับแล้วมันเป็นสมบัติสวรรค์ที่ล้ำค่าที่สุด
แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้วรยุทธของเขาขีดจำกัดสูงไม่พอ แม้ว่าเขาจะขยายเส้นชีพจรอยู่ตลอดเวลา แต่เวลานี้วรยุทธที่เขาจะบ่มเพาะได้ก็แค่เพียงยี่สิบห้าปีเท่านั้น หากตอนนี้ดูดซับเอาผลึกเก้าผลไป มันจะต้องสูญเปล่าไปถึงสามปี
ส่วนหลงหวางเอ๋อก็ติดอยู่ที่คอขวดเพื่อที่จะทะลวงวรยุทธขึ้นสามสิบปี มันก็ไม่ควรที่จะดูดซับเจ้าสิ่งนี้เช่นกัน
เมื่อเป็นเช่นนี้ เย่เฟิงทำได้เพียงเก็บผลมณีพืชทรายดาราไว้ก่อน อย่างแรกจะต้องนำมันกลับไปก่อน เขาและหลงหวางเอ๋อยังไม่สามารถใช้มันได้ชั่วคราว แต่จื่อเจี้ยนหลาน ชูชู และคนอื่นสามารถดูดซับมันได้ทันที เมื่อเป็นเช่นนั้นวรยุทธก็จะก้าวกระโดดทันที
ส่วนตัวผลมณีพืชทรายดาราและรวมกับอุกกาบาตทรายเงินกับซากแมงมุมดำยักษ์และชิ้นส่วนร่างของราชันปีศาจหั่วอวิ๋น น่าจะสามารถสร้างอาวุธวิเศษขั้นสมบัติวิเศษได้เลย ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงงานชุมนุมยุทธภพที่จะมาถึง เย่เฟิงก็ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัววังไท่จี๋และบรรพบุรุษตระกูลหลงหรืออิทธิพลที่ไหนก็ตามอีกต่อไป
“ขึ้นข้างบนกันเถอะ”
หลังจากที่เย่เฟิงได้รับผลมรีพืชทรายดารา เขาก็พยักหน้าให้หลงหวางเอ๋อ ก่อนที่พวกเขาจะพุ่งขึ้นไปยังผิวน้ำด้านบน
ส่วนเครื่องตรวจจับที่เย่เฟิงเพิ่งทำลายไปเมื่อครู่นี้ แน่นอนว่ามันผู้คนตระหนักได้ถึงบางอย่างใต้ทะเล แต่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องน่ากังวลมากนัก เพราะยังไงสิ่งของนั้นก็ถูกทำลายแทบจะในทันที
ด้วยช่วงเวลาพริบตาเดียวแค่นั้น เชื่อได้ว่าอีกฝ่ายจะต้องไม่สามารถพบได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นอน
…. ….
บนเรือเก็บกู้ที่ล่องลอยอยู่บนมหาสมุทร
ไซ่จื่อเชียนกับซูหง และชายอ้วนราวกับโอ่งกำลังถกเถียงแผนการกันอยู่
“ขาดการติดต่อจากเรือดำน้ำสองลำนั้น? แกล้อฉันเล่นหรือไงกันห๊ะ! ”
ชายอ้วนเมื่อได้ฟังไซ่จื่อเชียนและซูหงบอกเล่าสถานการณ์ไป พลันคิ้วขมวดกันปมทันที สามารถขบคิดได้เลยว่าเรือดำน้ำซ่อนตัวสองลำนั้นจะขาดการติดต่อไปได้ยังไง
“เผ่ยเขิงกรุ๊ปของพวกฉันได้สนับสนุนการเก็บกู้ในครั้งนี้ แถมยังช่วยจัดการตัวก่อกวนจากประเทศจีน แต่แกกลับมาพูดอะไรไร้สาระกัน”
เจ้าอ้วนซูหงเมื่อได้ฟังก็ยังโมโห กล่าวด้วยน้ำเสียงโอหังด้วยภาษาอังกฤษอย่างคล่องปรือ “เรื่องนี้ แกต้องรายงานไปยังกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา บอกให้พวกเขาไปยังพื้นที่ที่ขาดการติดต่อเพื่อค้นหา!”
“ทำงั้นไม่ดีแน่ครับ มันจะทำให้ฝั่งประเทศจีนรู้ตัวเอาได้ และพวกเราจะต้องห้ามใจเอาไว้”
ชายอ้วนแค่นเสียงออกมา ในใจพลันคิด ถ้าเจ๋งนัก ทำไมพวกแกไม่มาเป็นแบบฉันบ้างวะ แต่น่าเศร้าคำพูดเหล่านี้แน่นอนว่าไม่ได้พูดบอกออกไปต่อไซ่จื่อเชียนและซูหง
“บัดซบ ตรงนี้ไม่ใช่หรือไงที่ส่งเครื่องตรวจจับลงไป?”
บนใบหน้าไซ่จื่อเชียนเต็มไปด้วยความโกรธ แสงอาทิตย์สาดส่องกระทบลงบนหัวล้านๆของเขา เปล่งประกายแวววาว
“ต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ”
ชายอ้วนไม่สนใจแม้ว่าจะได้รับคำพูดที่ระคายเคืองหู “เพิ่งมีข่าวมาว่าเครื่องตรวจจับใต้ทะเลลึกถูกทำลายโดยวัตถุบางอย่างที่ก้นทะเลครับ หากจะเจาะจงตำแหน่งที่แน่นอน มันต้องใช้เวลาสักครู่ครับ”
“อะไรแมร่งก็ไม่รู้กันสักอย่าง เครื่องมือและกำลังคนมากมายแต่ไร้ประโยชน์กันหมด”
เจ้าอ้วนซูหงส่ายหัว เขาและไซ่จื่อเชียนมองหน้ากัน ต่างคนต่างเห็นความไม่ยินยอมอยู่ในนัยน์ตา
ก่อนที่เรือดำน้ำซ่อนตัวจะขาดการติดต่อ พวกเขาได้ส่งภาพถ่ายที่ยืนยันว่าเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์รุ่น 094 ได้ระเบิดไปขึ้น และมีลำแสงสีขาวพุ่งขึ้นไป และดูเหมือนว่าเย่เฟิงจะยังไม่ตาย
เรื่องนี้มันทำให้พวกเขารู้สึกหนาววูบ ขนาดนี้ยังฆ่าเย่เฟิงไม่ได้อีก หรือว่าจะต้องใช้ระเบิดปรมาณูหรือระเบิดไฮโดรถึงจะใช้ได้กัน?
แต่อย่างไรก็ตามยังมีข่าวดี ตอนนี้ทางฝั่งประเทศจีนได้ออกหมายจับเย่เฟิงแล้ว เจ้าเด็กหนุ่มคนนี้มันไม่สามารถกลับไปประเทศจีนได้แน่นอน แต่ยังอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกอยู่ เป็นไปได้ว่ากำลังกระเสือกกระสนอยู่ก็ได้
ขณะที่พวกเขาทั้งสองกำลังคิดกันอยู่ ชายอ้วนที่ยืนอยู่ตรงข้ามพวกเขาทั้งสองก็เงยหน้ามองทันที มองไปยังพวกเขาทั้งสอง สีหน้ามีอาการหวาดกลัว
ในเวลาเดียวกันนั้น “ตูม” เสียงน้ำกระแทกก็ดังลั่น ทำให้ไซ่จื่อเชียนและซูหงถึงกลับจ้องเขม็งทั้งคู่
พวกเขารีบเร่งมองไปยังดาดฟ้าเรือด้านนอก เห็นเป็นชายหนุ่มใส่ชุดสีดำที่เปียกโชกกระโดดพุ่งขึ้นมาจากทะเลมาอยู่กลางอากาศ จ้องมองมายังพวกเขาทั้งสามคน บนใบหน้าเปิดเผยรอยยิ้มแปลกประหลาด
“เป็นเย่เฟิง!”
ไซ่จื่อเชียนและซูหงตื่นตระหนกจนแทบเสียสติ
เย่เฟิงมาได้ยังไงกัน? เขาไม่ได้อยู่ที่ชายแดนน่านน้ำมหาสมุทรแปซิฟิกฝั่งประเทศจีนหรอกหรือ? แต่กลับมาปรากฏตัวอยู่ที่ใจกลางมหาสมุทรแปซิฟิกที่ระยะห่างกันถึง 2,000 กิโลเมตร!
ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องที่เย่เฟิงรอดจากแรงระเบิดของเรือดำน้ำได้ยังไง ด้วยระยะทางที่ไกลขนาดนี้ แน่นอนว่ามันไม่ใช่ที่มนุษย์จะว่ายมาได้เลย
อันที่จริงแล้ว เย่เฟิงและหลงหวางเอ๋อพบเจออุปสรรคมากมายระหว่างทาง ความวุ่นวายภายใต้ท้องทะเล ฉลามที่ดุร้าย และกระแสน้ำวน ฯลฯ หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นมันเป็นไปไม่ได้ที่จะผ่านมาได้ แต่มันไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเย่เฟิงและหลงหวางเอ๋อ
“ฆ่ามันเร็วเข้า!”
เป็นไซ่จื่อเชียนที่ได้สติคนแรก ก่อนที่จะล้วงมือเข้าไปในอก ดึงเอาปืนพกออกมา เล็งไปยังเย่เฟิงไม่ลังเลที่จะเหนี่ยวไก
ปัง! ปัง! ปัง!
กึก! กึก! กึก!
กระสุขพุ่งไปยังเย่เฟิงด้วยความเร็วอย่างยิ่ง แต่เบื้องหน้าเย่เฟิงพลันปรากฏโล่ดาราสีน้ำเงินขึ้น ป้องกันกระสุนทั้งหมดเอาไว้ได้
“วิชาเซียน โล่ดารา”
ร่างงดงามของหลงหวางเอ๋อปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าพวกเขา ริมฝีปากเข้ารูปยกยิ้มขึ้น เพียงโบกมือก็กระตุ้นโล่ปรารแท้จริงขึ้น กระสุนธรรมดาแน่นอนว่าไม่สามารถทะลุผ่านได้
“ใช้ปืนใหญ่ระเบิดมันซะ!”
ซูหงเมื่อเห็นว่าปืนพกไร้ประโยชน์ ไม่ทันได้คิดว่าสาวสวยหลงหวางเอ๋อคนนี้ปรากฏตัวขึ้นมาได้อย่างไร รีบเร่งหันไปทันทีตะโกนบอกกล่าวต่อชายอ้วน
ชายอ้วนชาวอเมริกาเวลานี้ได้รับคำสั่งออกมาสำรวจพร้อมเรือเก็บกู้นี้ ไม่คิดว่าจะต้องมาพบเจอสถานการณ์เช่นนี้ จึงมีท่าทีลนลาน
สาวจีนกับหนุ่มจีนพวกนั้นมันกระโดดสูงขนาดนั้นได้ยังไงกัน?
แต่ทว่าไม่รอให้เขาได้ทำตามคำสั่ง เย่เฟิงก็กระทืบเท้าลงมือก่อน และการลงมือนี้ ทำให้เขาไม่มีโอกาสที่จะได้ทำตามคำสั่งอีกเลย
วิชาเซียน เพลิงปรมาณู!
เย่เฟิงประกบมือทั้งสองแน่น ก่อนที่จะใช้วิชาเซียนเพลิงสุดขั้วขั้นสามที่เขาเพิ่งบรรลุได้ในระหว่างทาง
……………………………..
แปลโดย คั่นหนังสือ GSI